เยี่ยมชม house in phuket for sale การขายบ้านเอง ทำยังไงให้ขายออกแถมได้กำไร โดยไม่ผ่านคนกลาง
เยี่ยมชม house in phuket for sale บ้านจัดสรรภูเก็ต การขายบ้านด้วยตัวเอง ขายบ้านได้แบบไม่ผ่านคนกลาง มีขั้นตอนยังไง ใช้เอกสารอะไรบ้าง คนไหนมีแพลุกลี้ลุกลนจะขายบ้านเก่า บอกเลยไม่สมควรพลาดเด็ดขาด !
นอกเหนือจากการซื้อบ้านแล้ว แนวทางการขายบ้านก็มีเนื้อหายิบย่อยที่ยุ่งยาก วุ่นวาย phuket villa แล้วก็สลับซับซ้อนไม่แพ้กัน โดยเหตุนี้เมื่อถึงเวลาจำต้องขายบ้านทีไร คนโดยมากก็เลยหันไปพึ่งบริการจากคนกลางทุกครั้ง ฮั่นแน่ แม้กระนั้นความสบายสบาย เร็วทันใจ ง่ายอย่างยิ่ง ก็จะต้องแลกเปลี่ยนมาพร้อมกับค่าแรงงานแล้วก็เปอร์เซ็นต์ที่แพงหูฉี่ โดยเหตุนี้ถ้าเกิดผู้ใดมีงบประมาณจำกัดหรือต้องการเซฟเงินส่วนต่างละก็ แนวทางการขายบ้านเองแบบไม่พึ่งคนกลางก็เลยเป็นทางออกที่เยี่ยมที่สุด
แต่ว่าเอ๊ะ สงสัยกันใช่ไหมล่ะค่ะว่าวิธีแนวทางการขายบ้านเองจะต้องทำยังไง ? มีขั้นตอนอะไรบ้าง ? มาทางนี้เลยจ้ะ วันนี้ คุณ สมาชิกลำดับที่ 875908 สมาชิกเว็บพันทิปดอทคอม นำประสบการณ์วิธีขายบ้านของคุณ village phuket พร้อมข้อมูลแล้วก็เคล็ดลับต่างๆมาแบ่งปันกันให้รอบคอบ บอกเลยถึงแม้ว่าการขายบ้านจะไม่ใช้ว่าจะง่าย แต่ว่าก็มิได้ยากเกินเอื้อมหรอกนะ
แชร์ประสบการณ์ขายบ้าน ไม่พึ่งคนกลาง ขายเองอันธพาลเพียงพอ ^^
โดย คุณ สมาชิกเลขลำดับ 875908
แชร์ประสบการณ์ขายบ้านแบบไม่พึ่งคนกลาง เพราะว่ามีชายหนุ่มพันทิปช่วยขาย ฮิ้ววว เหตุเพราะว่าการเลิกรากับคู่รักเก่าที่ซื้อบ้านอยู่ร่วมกัน ก็เลยจำเป็นจะต้องขายบ้าน ถึงแม้ว่าเพิ่งจะซื้ออยู่ได้ 2 ปี SALE VILLA วันนี้เลยจะมารีทิวทัศน์ประสบการณ์แนวทางการขายบ้านแบบไม่พึ่งคนกลาง แนวทางการขาย รวมถึง แนวทางการโอนบ้าน และก็รายจ่ายต่างๆถ้าว่าจะมีประโยชน์กับสหายๆที่พบเจอปัญหาเสมือนพวกเรานะคะ ไม่รู้จักว่าจะมีคุณประโยชน์เพียงใด แม้กระนั้นก็ขอแชร์นะคะ
เริ่มจากบ้านข้างหลังนี้ซื้อมาเมื่อธ.ค. ปี 2559 ใช้ชื่อพวกเราเป็นผู้กู้ผู้เดียว ซื้อเนื่องจากว่าตั้งมั่นจะสร้างครอบครัวด้วยกันกับคู่รักเก่า แต่ว่าภายหลังจากอยู่มาได้ราวๆ 1 ปี ชีวิตแต่งงานก็เริ่มมีปัญหาบุคคลที่สาม เศร้าใจอะแน่ๆ แม้กระนั้นชีวิตควรจะมีสติและก็เดินต่อไป ในขณะที่ปัญหายังคั่งค้างกันอยู่ บ้านภูเก็ต วิลล่า ภูเก็ต อย่างแรกที่พวกเราทำเกี่ยวกับบ้านหมายถึงการย้ายชื่อจริงเองเข้าใบสำมะโนครัวข้างหลังนี้ในทันที เนื่องจากตั้งแต่มาอยู่ได้ 1 ปี พวกเราไม่มีชื่อในใบสำมะโนครัวตั้งแต่ตอนแรก แต่ว่ามีชื่อแฟนเป็นเจ้าของบ้าน
ด้วยเหตุนั้นถ้าเกิดให้เสนอแนะสำหรับผู้ที่ซื้อบ้านแล้วก็เป็นผู้กู้ ต้องมีชื่อในทะเบียนสำมะโนครัวด้วย ด้วยเหตุว่าเวลาจำต้องขายบ้าน ในกรณีที่มีชื่อในทะเบียนสำมะโนครัวเกิน 1 ปี จะปลอดภาษีธุรกิจเฉพาะ บอกเลยว่าหากจะต้องเสีย ภาษีตัวนี้เยอะๆส่วนกระบวนการทำเรื่องย้ายใบสำมะโนครัวก็ไปติดต่ออำเภอ แม้กระนั้นกรณีพวกเรา เนื่องจากว่าคู่รักเก่าเป็นเจ้าของบ้าน ฉะนั้นจะต้องให้เขาเซ็นให้อำนาจสำหรับการขอย้ายเข้าแล้วก็แปลงเจ้าของบ้าน หากแม้พวกเราจะมีโฉนดที่ดินที่เป็นชื่อพวกเราอยู่ในมือก็ตาม ก็จำต้องให้เขาให้อำนาจ อีกอย่างที่ทำเป็นแปลงชื่อคนรับผลตอบแทนในรับรองบ้านที่ทำไว้ จากเดิมเป็นชื่อแฟน ก็ตัดมันทิ้งไปซะ ชีวิตไม่แน่นอน เผื่อเกิดอุบัติเหตุ พวกเราเสียชีวิตระหว่างยังขายบ้านมิได้ บ้านจะได้ไม่เป็นของมันกับภรรยาน้อย
1. ขั้นตอนลงประกาศขาย
อย่างที่กล่าวว่าพวกเราพึ่งย้ายเข้าใบสำมะโนครัวไม่ถึงปี ขั้นแรกเลยมิได้มุ่งมั่นกับการประกาศขายมากสักเท่าไรนัก ย้ำการบอกต่อคนรู้จักกันมากยิ่งกว่า จนถึงใกล้ครบมีชื่อในใบสำมะโนครัว 1 ปี ก็เลยตกลงใจประกาศขายแบบขมักเขม้น กรรมวิธีการของพวกเราก็คือ ใช้แฟน 555 คนรักใหม่นะคะ ภายหลังเลิกกับคนรักเก่าไม่นาน พวกเราก็มีคู่รักใหม่ที่รู้จักกันด้วยเหตุว่าพันทิปนี่แหละ พี่เขาช่วยพวกเราประกาศขายบ้าน ที่ขายได้ก็เนื่องจากว่าพี่เขานี่แหละ (ขอบพระคุณนะ จูบๆ)
กรรมวิธีการประกาศขายบ้านของพวกเรา เป็น
- 1. การโพสต์ขายบ้านในเว็บไซต์ฟรีต่างๆโดยไม่เสียเงินเสียทอง เว็บไซต์ขายที่ดินไหนฟรี ลงไปให้หมด ภาพที่ลงควรจะถ่ายให้เกิดความงดงามๆจัดบ้านให้สะอาดตา ภาพที่ลงควรจะมีอีกทั้งด้านนอก ข้างใน และก็เนื้อหาบ้านให้ครบ รวมทั้งจุดแข็งของบ้าน บรรยายไปให้หมด
- 2. พิกัดบ้านที่ลงจะต้องแจ่มกระจ่าง บางบุคคลไม่บอก ผู้ซื้อก็ไปผิด GPS ลงไปด้วย
- 3. ขึ้นป้ายประกาศอับอายขายหน้าบ้าน อันนี้จำเป็นจะต้องนะคะ ผู้คนจำนวนมากชอบอายที่จะขึ้นป้ายขายบ้าน ไม่ได้อยากต้องการตอบปัญหาเวลาเพื่อนบ้านมาถาม แม้กระนั้นควรจะทำนะ เพราะว่าถ้าเกิดเวลาผู้ซื้อพอใจมาดูบ้านโดยไม่บอกพวกเรา เขาจะรู้ได้โดยทันทีว่าบ้านที่เขาพอใจอยู่นี้ และก็เพื่อนบ้านนั่นแหละ หากเขามีวงศ์ญาติ อยากที่จะให้มาอยู่ใกล้กัน ก็ได้โอกาสที่จะขายได้มากขึ้น
- 4. เข้าพวก Facebook ซื้อ-ขายที่ดิน มีหลายกรุ๊ปนะ อีกทั้งเฉพาะพื้นที่ภาคและก็ทั่วทั้งประเทศ เข้าพวกไปให้หมด เวลามีคนมาสอบถามหาที่โซนเดียวกับพวกเรา ก็จะได้เสนอได้โดยทันที แต่ว่าร่วมกรุ๊ปและก็จำเป็นต้องหมั่นเข้าไปมองเสมอๆกดไลก์บ้าง ไม่เช่นนั้นเฟซบุ๊กจะขวางการมองมองเห็น
- 5. ประกาศแจ้งในไลน์กรุ๊ปหมู่บ้าน กรุ๊ปไลน์ต่างๆได้แก่ บ้านนี้ขายนะคะ พึงพอใจติดต่อได้… อย่างที่กล่าวว่าคนภายในหมู่บ้าน ถ้าหากมีเครือญาติๆเพื่อนพ้องๆที่รู้จักกำลังอยากซื้อบ้าน เขาจะได้เสนอแนะ เป็นการเพิ่มช่องทางสำหรับเพื่อการขายอีกทาง
ขั้นตอนที่พวกเราทำก็ราวนี้จ้ะ ประกาศไปไม่นาน ก็มีคนติดต่อมา พวกคนกลางก็มากมาย แม้กระนั้นพวกเราเสียดายเงินที่จำเป็นต้องจ่ายให้คนกลางตั้ง 3% เลยทดลองทำเองดูกรดีมากกว่า แต่ว่าก็แอบเรียนเรื่องคนกลางมาแบบเดียวกัน สำหรับผู้ที่จะใช้บริการคนกลาง จะมีการลงลายลักษณ์อักษรแบบเปิดและก็แบบปิด ถ้าหากทำแบบปิด จะเป็นการผูกขาดให้คนกลางคนนี้ขายได้ผู้เดียว แล้วก็ถึงพวกเราจะขายเอง อย่างไรก็จำต้องจ่าย 3% ให้คนกลางตามข้อตกลงทุกกรณี ซึ่งพวกเราเห็นว่ามันไม่ค่อยแฟร์มากแค่ไหน คนไหนกันจะใช้บริการก็ตกลงใจให้ดีนะ โดยของพวกเราภายหลังที่ลงประกาศไปตั้งแต่ต้นปี ก็เริ่มมีคนติดต่อมาเรื่อย
- ผู้ที่ 1 จากในกรุ๊ปเฟซบุ๊กซื้อ-ขายที่ดิน น้องมาสอบถามหาที่ดินในโซนนี้ พวกเราเลยไปตอบคอมเมนต์ว่า พอใจบ้านพร้อมที่ดินไหม น้องก็เลยมาดูบ้านในทันที ด้วยเหตุว่าทำเลที่ตั้งได้ แต่ว่ายังติดว่าความตั้งมั่นน้องอยากที่ดินเพื่อปลูกเรือนเอง ก็เลยขอเวลาตกลงใจ
- ผู้ที่ 2 เป็นคนภายในหมู่บ้าน มองเห็นป้ายที่ติดหน้าบ้าน พึงพอใจ ก็เลยมาถามราคา แต่ว่าก็ยังไม่ตกลงใจ
- ผู้ที่ 3 เป็นเพื่อนกับน้องข้างบ้าน น้องอยากได้มากมายๆแต่ว่าค่าตอบแทนรายเดือนน้อย กู้ไม่ผ่าน ต้องหาคนกู้ร่วม ซึ่งจำเป็นต้องรอไปก่อน
- ผู้ที่ 4 ติดต่อมาเพราะว่ามองเห็นจากโพสต์ประกาศที่คุณแฟนลงไว้ ต่อรองราคาจาก 2.69 ล้าน เหลือ 2.2 ล้าน ตกลงกันมิได้ ต่อแหลกขนาดนี้ ไม่ขายแรง เนื่องจากแน่ใจว่าจะขายได้ราคาสูงขึ้นยิ่งกว่านี้แน่ๆ และไม่นานภายหลังไม่ยอมรับไป ฟ้าก็ส่งผู้ครอบครองตัวจริงมาแล้วแรง ชอบใจ
2. การสนทนากับผู้บริโภคตัวจริง
ผู้ซื้อมองเห็นประกาศขายบ้านในเว็บ พอใจ นัดหมายมองบ้าน แอดไลน์คุยกัน พวกเราก็ส่งภาพเพิ่มให้ก่อนแบบทุกที่ ซึ่งจริงๆผู้ซื้อแอบขับขี่รถเข้าไปมองบ้านมาแล้วจ้ะ พอเพียงถึงวันนัดหมายมองบ้าน ผู้บริโภคก็มาทั้งยังครอบครัว บิดา แม่ ผัว แล้วก็ลูกรวม 5 คน มาช่วยดูและตกลงใจ ทุกคนโอเค โดยผู้ซื้อไม่ต่อรองราคาสักบาท นี่แหละที่สังคมอยากได้ 555 ต่อไปนี้ก็นัดพบให้บริษัทมาประเมินบ้านเพื่อไปยื่นกู้สหกรณ์ เนื่องจากว่าน้องดำเนินงานราชการ ผ่านไปอาทิตย์เดียว น้องติดต่อมาว่า พี่ค่ะ ประเมินบ้านได้ 3.2 ล้านบาท พี่จัดเตรียมเอกสารไว้นะคะ พวกเราทำความตกลงกัน หนูจะเอาไปยื่นกู้สหกรณ์จ้ะ โอ้โห มีความตกอกตกใจ บ้านฉันประเมินได้ 3.2 ล้านบาทเลยหรอเนี่ย ดีใจมาก ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างรวดเร็วทันใจ ก็นัดหมายทำข้อตกลง พอๆกับว่าผู้ซื้อกู้ได้มากกว่าราคาซื้อ-ขายถึง 5 แสนบาท เพราะเหตุว่าสหกรณ์ให้กู้ตามราคาประเมิน
- – ขั้นตอนทำข้อตกลงจะซื้อจะขาย ผู้เขียนกระทู้ใช้เอกสารตัวนี้จ้ะ เป็นคำสัญญาจะซื้อจะขาย โหลดในอินเทอร์เน็ตนี่แหละ สิ่งที่จะต้องกำหนดให้กระจ่างในข้อตกลง เป็น
1. กติกาเรื่องค่าครองชีพในวันโอนในที่ทำการที่ดิน นี้ตกลงกันให้ดีว่าคนใดกันแน่จะจ่ายส่วนไหน เพื่อไม่ให้มีปัญหาวันโอน โดยค่าโอนจะประกอบไปด้วยรายจ่าย ดังต่อไปนี้
- – ค่าธรรมเนียมโอน 2% ของราคาประเมินเงินทุน
- – ภาษีรายได้หักในที่จ่าย คิดจากราคาประเมินเงินทุน
- – ภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% ของราคาประเมินเงินทุน หรือราคาซื้อ-ขาย สุดแต่ว่าราคาไหนสูงขึ้นมากยิ่งกว่า ก็ให้คิดจากราคานั้น
- – ค่าอากรฯ 0.5% ของราคาประเมินเงินทุน หรือราคาซื้อ-ขาย สุดแต่ว่าราคาไหนสูงยิ่งกว่า ก็ให้คิดจากราคานั้น
(ราคาประเมินเงินทุนหมายถึงราคาที่ประเมินจากที่ดิน ไม่ใช่ราคาประเมินจากแบงค์หรือบริษัทประเมินบ้านนะคะ ซึ่งโดยมากก็จะต่ำยิ่งกว่าราคาซื้อ-ขายจำนวนมาก)
ที่จะต้องเสียแน่นอนเป็น ค่าโอนแล้วก็ภาษีรายได้ ส่วนภาษีธุรกิจเฉพาะหรือค่าอากร จะเสียเพียงแค่ตัวใดตัวหนึ่งเพียงแค่นั้น ถ้าหากจำต้องเสียภาษีอากรธุรกิจเฉพาะ ก็จะได้รับการงดเว้นไปไม่ต้องเสียค่าอากรฯ แม้กระนั้นถ้าเกิดได้รับการงดเว้นไม่ต้องเสียภาษีอากรธุรกิจเฉพาะ ก็ให้ไปเสียค่าอากรฯ แทน สำหรับของผู้เขียนกระทู้ ค่าภาษีอากรธุรกิจเฉพาะได้รับการละเว้น เนื่องจากว่ามีชื่อในใบสำมะโนครัวเกิน 1 ปี หรือหากไม่มีชื่อในใบสำมะโนครัว จะเว้นเสียแต่ก็เมื่อคนขายครองบ้านมาแล้ว 5 ปี และผู้บริโภคก็จะมีค่าจำท่วมด้วย กรณียื่นกู้แบงค์
ย้ำอีกรอบ กรณีบุคคลปกติซื้อ-ขายที่ดิน ค่าโอน ค่าภาษีอากรรายได้ คิดจากราคาประเมินของที่ดิน มิได้เอาราคาซื้อ-ขายมาคิด บางบุคคลรู้เรื่องว่า ราคาไหนสูงขึ้นมากยิ่งกว่าใช้ราคานั้น แต่ว่าที่ถูกเป็น ใช้ราคาประเมินแรง (ราคาประเมิน สามารถเช็กได้จากเว็บ กรมธนารักษ์ หรือโทร. ไต่ถามทางที่ดินในพื้นที่นะคะ พอใช้ได้ราคาประเมินและจากนั้นก็เอามาคิดรายจ่ายจากเว็บ กรมที่ดิน
2. ตกลงการมัดจำ พวกเราขอมัดจำน้องเพียงแค่ 5,000 บาท เพียงแค่นั้น เงินมัดจำผู้ใดกันจะคิดเยอะแค่ไหน ก็ประเมินเอาเองนะคะ ด้วยเหตุว่านี้นับว่าเป็นค่าเสียเวล่ำเวลา ในกรณีที่ผู้ซื้อกลับใจหรือกู้ไม่ผ่าน
3. ช่วงเวลาของข้อตกลง ก็กำหนดไปว่าให้เวลาผู้ซื้อมากแค่ไหนสำหรับในการยื่นกู้ ของพวกเราลงไว้ 1 เดือน โดยเคสของพวกเรา ผู้ซื้อยื่นกู้อาทิตย์เดียวก็แจ้งมาว่าผ่านเป็นระเบียบจ้ะ จากนั้นก็มาถึง
3. วิธีการไถ่คืนบ้าน
ของพวกเราบ้านติดผ่อนแบงค์อยู่ ภายหลังผู้บริโภคยื่นกู้ผ่านแล้ว สิ่งที่ผู้ขายจะต้องทำ เป็น
1. ติดต่อแบงค์ที่กู้ แจ้งเรื่องขอไถ่คืน ของผู้ตั้งกระทู้เป็นแบงค์ CIMB
2. แบงค์จะส่งเอกสารมาทางอีเมล ให้พวกเราพรินต์รวมทั้งกรอกข้อมูล เป็นเอกสารขอไถ่คืนหลักทรัพย์ เซ็นสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน แล้วหลังจากนั้นก็ถ่ายภาพแล้วก็ส่งอีเมลกลับไป
3. รอคอยแบงค์ติดต่อมาเพื่อนัดหมายวันไถ่คืน แบงค์แจ้งมา พวกเราก็แจ้งผู้ซื้อไป ผู้บริโภคไปแจ้งสหกรณ์ นัดแนะตกลงกัน
4. คอยแบงค์แจ้งยอดปิด ที่ตรงนี้ภายหลังที่ได้วันนัดพบโอนบ้านแล้ว ทางแบงค์ชัดเจนยอดปิดมาให้ เพื่อที่จะได้ให้พวกเราแจ้งผู้ซื้อทำเช็ค 2 ใบ โดยใบแรกเป็นชื่อแบงค์ตามยอดที่พวกเราเป็นหนี้ธนาคาร อีกใบเป็นส่วนต่างจะเป็นชื่อพวกเรา